ปีตวิมาน
ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในปีตวิมาน
สมเด็จอัมรินทราธิราชตรัสถามนางเทพธิดาตนหนึ่ง
[๔๗]
ดูกรนางเทพธิดาผู้เจริญ ผู้นุ่งห่มผ้าล้วนแล้วด้วยสีเหลือง
มีธงก็เหลืองตกแต่งด้วยเครื่องอลังการเหลือง มีกายอันลูบไล้ด้วยจุณจันทน์เหลือง
ทัดทรงดอกบัวหลวง มีปราสาทอันแล้วด้วยทองคำ มีที่นอนและที่นั่งสีเหลือง
ทั้งภาชนะที่รองรับขาทนียะและโภชนียะสีเหลือง มีฉัตรสีเหลือง
รถสีเหลือง มีม้าและพัดล้วนแล้วสีเหลือง เมื่อชาติก่อนท่านเป็นมนุษย์ได้กระทำบุญอะไรไว้
ฉันถามท่านแล้วขอท่านจงบอก นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร |
นางเทพธิดาตอบว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันได้น้อมนำเอาดอกบวบขมซึ่งมีรสขม
ไม่มีใครชอบ จำนวน ๔ ดอก ไปบูชาพระสถูปตั้งจิตอุทิศต่อพระบรมธาตุของพระบรมศาสดา
ด้วยจิตอันเลื่อมใสกำลังส่งใจไปในพระบรมธาตุของพระศาสดานั้น
ไม่ทันได้พิจารณาถึงหนทางที่มาแห่งแม่โค ทันใดนั้น แม่โคได้ขวิดหม่อมฉันผู้มีความปรารถนาแห่งใจยังไม่ถึงพระสถูป
ถ้าหม่อมฉันได้สั่งสมบุญนั้นไซร้
หม่อมฉันพึงได้ทิพยสมบัติยิ่งกว่านี้เป็นแน่ ข้าแต่ท้าวมัฆวานจอมเทพผู้เทพกุญชร
เพราะบุญกรรมนั้น หม่อมฉันละอัตภาพมนุษย์แล้ว จึงได้มาอภิรมย์อยู่กับพระองค์
ท้าวมัฆวานผู้เป็นอธิบดีแห่งทศเทพผู้ทรงเทพกุญชร
ได้ทรงสดับเนื้อความนี้แล้ว เมื่อจะทรงยังทวยเทพเจ้าชาวดาวดึงส์สวรรค์ให้เลื่อมใส
ได้ตรัสกะมาตลีเทพบุตรว่า
ดูกรมาตลี
จงดูผลแห่งกรรมอันวิจิตรน่าอัศจรรย์นี้ ทานวัตถุแม้มีประมาณน้อยอันนางเทพธิดานี้ทำแล้ว
ย่อมเป็นบุญมีผลมาก เมื่อจิตเลื่อมใสในพระตถาคตสัมพุทธเจ้า
ในพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือในสาวกของพระตถาคต ทักษิณา ย่อมไม่เชื่อว่ามีผลน้อยเลย
มาเถิดมาตลี แม้เราทั้งหลายพึงรีบเร่งบูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระตถาคตให้ยิ่งๆ
ขึ้นเถิด เพราะการสั่งสมบุญย่อมนำสุขมาให้ เมื่อพระตถาคตจะยังทรงพระชนม์อยู่
หรือเสด็จปรินิพพานไปแล้วก็ตาม เมื่อจิตสม่ำเสมอผลก็ย่อมสม่ำเสมอ
เพราะเหตุที่ตั้งจิตไว้ชอบธรรม สัตว์ทั้งหลายย่อมไปสู่สุคติ
ทายกทั้งหลายได้กระทำสักการะบูชาในพระตถาคตเหล่าใดไว้แล้ว
ย่อมไปสู่สวรรค์ พระตถาคตเหล่านั้นย่อมเสด็จอุบัติขึ้น
เพื่อประโยชน์แก่ชนเป็นอันมากหนอ.
จบ
ปีตวิมานที่ ๙. หน้า 66 ข้อ 47