.............ในสมัยแห่ง
พระพุทธเจ้ากัสสปะ ได้มีค้างคาวหนู 500 ตัว ห้อยอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง
วันหนึ่งได้มีพระเถระ 2 รูปเข้ามาบำเพ็ญสมณธรรมและสวดมนต์
(อภิธรรม) ค้างคาวหนูทั้ง 500 ตัวก็ได้ฟังเสียงสวดมนต์ด้วยความดื่มด่ำเพลิดเพลิน
ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจในความหมายแห่งบทสวดมนต์นั้นๆ ด้วยอานิสงส์นี้
ค้างคาวหนูทั้ง 500 ตัวจึงได้ไปเกิดเป็นเทวบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นานถึง
1 พุทธันดร เมื่อจุติจากสวรรค์ก็ได้มาเกิดในโลกมนุษย์
ในกรุงสาวัตถีสมัยพระพุทธเจ้ายุคปัจจุบัน
.............ในพรรษาที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดง
ยมกปาฏิหาริย์ โปรดพระมารดาที่ชั้นดาวดึงส์ด้วย พระพุทธนิรมิต
จนกว่าจะกลับ แต่พระวรกายจริงกลับเสด็จไปยังป่าหิมพานต์
แล้วโปรดพระสารีบุตรกับศิษย์กุลบุตร 500 คน (ค้างคาวหนูทั้ง
500 ตัวที่มาเกิด) กุลบุตรทั้ง 500 คนเลื่อมใสใน ยมกปาฏิหาริย์
จึงได้บวชกับพระสารีบุตร พระพุทธองค์ก็ทรงเสด็จกลับเทวโลก
พระสงฆ์ทั้ง 500 องค์ได้เป็นผู้ชำนาญใน ปกรณ์ทั้ง 7 และ
บำเพ็ญจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ด้วยกันทั้งหมด 500 องค์ และได้พักจำพรรษาอยู่
ณ ถ้ำแห่งหนึ่ง
.............ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จไปยังเมืองกุสินารา
ได้ทรงแวะทำภัตกิจ ณ ถ้ำแห่งนี้ พร้อมกับทรงประชวรเนื่องจากทรงเสวยเนื้อสุกร
จึงได้ประทับในถ้ำเป็นเวลาพอสมควร ก่อนหน้าที่หมอชีวกโกมารภัจจ์จะติดตามมาทัน
ดังนั้นจึงได้มีการสร้าง พระพุทธไสยาสน์ ประทับบนแท่นที่พระพุทธองค์เคยประทับมาก่อนเพื่อเป็นพุทธานุสรณ์ว่า
พระพุทธองค์ได้เคยเสด็จมาประทับ ณ ที่แห่งนี้ก่อนเสด็จดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานที่เมืองกุสินารา
.............เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานแล้ว
พระอรหันต์ 500 องค์ ซึ่งยังคงอยู่ที่ถ้ำแห่งนั้นก็ได้นิพพานในเวลาที่ใกล้เคียงกับพระพุทธองค์
ส่วนพระอินทร์เมื่อทราบว่า พระอรหันต์ 500 องค์ นิพพานแล้วก็ได้เนรมิตไฟมาถวายเพลิง
ไฟที่เผาไหม้ได้ร้อนไปถึงเมืองบาดาล พญานาคจึงขึ้นมาพ่นน้ำดับไฟจนเหลือแต่เถ้า
จึงเรียกว่า ถ้ำดับเถ้า ตอนหลังเพี้ยนเป็น ถ้ำตับเต่า
.............ปัจจุบันรูที่เกิดจากพญานาคผุดขึ้นมาจากเมืองบาดาล
ก็ยังคงสภาพเดิมอยู่อย่างนั้น เนื่องจากไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้
เพราะกลัวพญานาค และน้ำที่ผุดขึ้นมาค่อนข้างจะน่ากลัวเพราะเกิดจากแรงดันจากใต้บาดาล
ทำให้น้ำไหลเชี่ยวและแยกเป็นหลายลำธารไม่เคยขาดสายตลอดปี
สามารถนำมาใช้อาบและต้มดื่มกินได้ และยังมีความศักดิ์สิทธิ์สามารถดับพิษไฟได้อีกด้วย
.............ส่วน
เถ้าอังคาร ที่จมอยู่ในน้ำตามลำธารใกล้ถ้ำดังกล่าวได้จับตัวรวมกันเป็นพระธาตุมีหลายขนาด
และหลากสีสันวรรณะ เราจึงเรียกพระธาตุเหล่านั้นว่า พระธาตุพระอรหันต์
500 หรือ พระธาตุ 500 อรหันต์
|